การดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้ง

ประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนที่มีช่วงฤดูฝนประมาณ 5 เดือน และช่วงฤดูแล้งประมาณ 7 เดือน ซึ่งในช่วงฤดูแล้งนั้น ปริมาณน้ำฝนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้พืชพรรณต่างๆ รวมถึงสวนผลไม้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ต้นไม้ผลขาดน้ำ ใบไหม้ ร่วงหล่น ผลแตก ผลผลิตลดลง หรืออาจถึงขั้นตายได้ ดังนั้น การดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้งจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรักษาผลผลิตและคุณภาพของผลไม้ให้อยู่ในระดับที่ดี
วิธีการดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้ง
วิธีการดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้ง มีดังนี้
- การให้น้ำ การให้น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับต้นไม้ผล ในช่วงหน้าแล้งควรให้น้ำต้นไม้ผลอย่างสม่ำเสมอ โดยให้น้ำอย่างลึกและชุ่มถึงชั้นดินล่าง เพื่อป้องกันรากต้นไม้ผลแห้งตาย ควรให้น้ำในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย ปริมาณน้ำที่ใช้ให้ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ผล อายุของต้นไม้ สภาพดิน และสภาพอากาศ โดยปกติแล้ว ต้นไม้ผลควรได้รับน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่หากสภาพอากาศแห้งแล้งมาก อาจต้องให้น้ำบ่อยขึ้น
- การพรางแสง การพรางแสงจะช่วยปกป้องต้นไม้ผลจากแสงแดดที่แรงในช่วงหน้าแล้ง แสงแดดที่แรงจะทำให้ใบไหม้ ส่งผลให้การสังเคราะห์แสงลดลง ต้นโทรม และผลผลิตลดลง โดยอาจใช้วัสดุต่างๆ เช่น ตาข่าย ฟางข้าว ใบไม้แห้ง มาคลุมบริเวณทรงพุ่มของต้นไม้ผล
- การใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับต้นไม้ผล และช่วยให้ต้นไม้ผลสามารถทนทานต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ โดยควรใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 ในช่วงต้นฤดูฝน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับต้นไม้ผลสำหรับการเจริญเติบโตในช่วงฤดูแล้ง
- การกำจัดศัตรูพืช ศัตรูพืชต่าง ๆ เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง ไรแดง แมลงหวี่ขาว ฯลฯ จะระบาดได้ง่ายในช่วงหน้าแล้ง เนื่องจากอากาศแห้งแล้ง ทำให้ศัตรูพืชสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยควรกำจัดศัตรูพืชโดยใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เหมาะสมกับชนิดของศัตรูพืช
- การกำจัดวัชพืช วัชพืชจะแย่งน้ำและธาตุอาหารจากต้นไม้ผล ทำให้ต้นไม้ผลขาดสารอาหารและเจริญเติบโตช้าลง โดยควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
- การบำรุงรักษาระบบน้ำ ระบบน้ำมีความสำคัญในการให้น้ำต้นไม้ผลอย่างเพียงพอและทั่วถึง โดยควรตรวจสอบระบบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ หากพบว่าระบบน้ำชำรุด ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย
ข้อควรระวังในการให้น้ำต้นไม้ผลในช่วงหน้าแล้ง
- ควรให้น้ำในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย
- ควรให้น้ำอย่างลึกและชุ่มถึงชั้นดินล่าง เพื่อป้องกันรากต้นไม้ผลแห้งตาย
- ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป หรือให้น้ำไม่เพียงพอ
- ควรเลือกใช้หัวฉีดให้เหมาะสมกับสภาพของต้นไม้ผล
เทคนิคการดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้ง
นอกจากวิธีการดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้งข้างต้นแล้ว เกษตรกรอาจนำเทคนิคต่างๆ มาใช้เพิ่มเติม เพื่อให้การดูแลสวนผลไม้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนี้
- การปลูกพืชตระกูลถั่ว การปลูกพืชตระกูลถั่วจะช่วยเพิ่มปริมาณไนโตรเจนในดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถกักเก็บน้ำได้ดียิ่งขึ้น
- การปลูกพืชคลุมดิน การปลูกพืชคลุมดินจะช่วยป้องกันวัชพืช รักษาความชื้นในดิน และเพิ่มสารอาหารให้กับดิน
- การปลูกต้นไม้บังลม การปลูกต้นไม้บังลมจะช่วยช่วยลดความเร็วลม ทำให้ลมไม่พัดแรงจนทำให้ต้นไม้ผลได้รับความเสียหาย
การดูแลสวนผลไม้ในช่วงหน้าแล้งอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เกษตรกรสามารถลดความเสียหายของต้นไม้ผล และช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพดี ส่งผลให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และการประยุกต์นำ IOT มาติดตั้งในสวนเกษตรเป็นสมาร์ทฟาร์มเองก็มีประโยชน์อย่างมากด้วย