N P K เป็นตัวอักษรย่อของ Nitrogen (ไนโตรเจน), Phosphorus (ฟอสฟอรัส) และ Potassium (โพแทสเซียม) ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการในการเจริญเติบโต

  • ไนโตรเจน (N) มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของใบและลำต้นของพืช ช่วยให้พืชสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น ทำให้ใบมีสีเขียวเข้ม พืชเจริญเติบโตได้ดี
  • ฟอสฟอรัส (P) มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของรากและเมล็ดของพืช ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารอื่นๆ ได้ดี ช่วยให้พืชออกดอกและติดผล
  • โพแทสเซียม (K) มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของราก ลำต้น และใบของพืช ช่วยให้พืชทนต่อความเครียด เช่น โรคและแมลงศัตรูพืช สภาพอากาศที่แห้งแล้งและน้ำท่วม

อัตราส่วน NPK ที่พืชต้องการ

อัตราส่วน N.P.K ที่พืชต้องการจะแตกต่างกันไปในแต่ละชนิดพืชและระยะการเจริญเติบโตของพืช โดยทั่วไปแล้ว พืชผักสวนครัวต้องการไนโตรเจนมากกว่าฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ไม้ผลต้องการฟอสฟอรัสมากกว่าไนโตรเจนและโพแทสเซียม ไม้ยืนต้นต้องการโพแทสเซียมมากกว่าไนโตรเจนและฟอสฟอรัส

การใส่ปุ๋ย N.P.K

การใส่ปุ๋ย N.P.K ควรใส่อย่างเหมาะสมตามความต้องการของพืชในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต ไม่ควรใส่ปุ๋ยมากเกินไป เพราะอาจทำให้พืชตายได้ โดยทั่วไปแล้ว ปุ๋ย NPK ควรใส่ปีละ 2-3 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงฤดูร้อน และครั้งที่สามในช่วงฤดูหนาว

แหล่งที่มาของ N.P.K

N.P.K สามารถพบได้จากปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยเคมี เช่น ปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ปุ๋ยฟอสเฟต และปุ๋ยโพแทสเซียม

ประโยชน์ของ N.P.K

N.P.K มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ออกดอกและติดผล ทนต่อโรคและแมลงศัตรูพืช สภาพอากาศที่แห้งแล้งและน้ำท่วม

สรุป

N.P.K เป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการในการเจริญเติบโต อัตราส่วน N.P.K ที่พืชต้องการจะแตกต่างกันไปในแต่ละชนิดพืชและระยะการเจริญเติบโตของพืช การใส่ปุ๋ย N.P.K ควรใส่อย่างเหมาะสมตามความต้องการของพืช